หนุ่มเกย์ ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่างไร?
เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติ และเป็นส่วนหนึ่งของความรัก ความสัมพันธ์ และความสุขในชีวิตของคนทุกเพศทุกวัยรวมถึง หนุ่มเกย์ ด้วยเช่นกัน แต่ความสุขเหล่านี้จะยั่งยืนได้ก็ต่อเมื่อ “ปลอดภัย” และ “รับผิดชอบ” ต่อทั้งตัวเองและคนที่เรารัก โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว เพราะสามารถเกิดขึ้นได้แม้ในความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนมั่นคง ดังนั้น การเรียนรู้วิธีป้องกัน ตรวจคัดกรอง และดูแลสุขภาพทางเพศจึงเป็นเรื่องสำคัญที่หนุ่มเกย์ทุกคนควรใส่ใจ
ทำไม หนุ่มเกย์ ถึงต้องใส่ใจเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์?
การศึกษาทั่วโลกและในประเทศไทยชี้ว่า กลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (MSM) โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่อาจมีการนัด เกย์หาคู่นอน ผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์ และมีอัตราการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์รวมถึง HIV สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประชากรทั่วไป ด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น:
- มีพฤติกรรมทางเพศที่มีความเสี่ยง เช่น การไม่ใช้ถุงยาง การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- ยังมีอคติหรือความกลัวในการเข้าถึงบริการตรวจสุขภาพทางเพศ
- ขาดความรู้หรือข้อมูลที่ถูกต้อง
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า การเป็นเกย์ทำให้คุณต้องป่วย — ถ้าคุณรู้จักดูแลตัวเอง
ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง = ปลอดภัยไว้ก่อน
ถุงยางอนามัย เป็นวิธีป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ง่าย เข้าถึงได้ และมีประสิทธิภาพสูง
เคล็ดลับที่ควรรู้:
- ใช้ถุงยางที่เหมาะสำหรับการมีเซ็กส์ทางทวารหนัก เช่น ถุงยางที่หนาเป็นพิเศษหรือหล่อลื่นมากขึ้น
- เปลี่ยนถุงยางทุกครั้งที่เปลี่ยนคู่นอน หรือเปลี่ยนกิจกรรม (เช่น จากเซ็กส์ทางปากไปทางทวารหนัก)
- อย่าใช้ถุงยางซ้ำ และอย่าใช้ร่วมกับน้ำมัน เพราะจะทำให้ถุงยางเสื่อมคุณภาพ
จำไว้ว่า: ถึงแม้คุณจะสนิทกันแค่ไหน ความรักไม่ได้แปลว่าจะต้อง “ไม่ใช้ถุงยาง” เสมอไป ความรักที่ดีต้องปลอดภัยด้วย

หนุ่มเกย์ ใช้เจลหล่อลื่นอย่างเหมาะสม
หลายคนมองข้ามเรื่อง “เจลหล่อลื่น” ทั้งที่มันคืออุปกรณ์สำคัญที่ช่วยป้องกันการเสียดสี ซึ่งเป็นช่องทางให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น
ประเภทของเจลหล่อลื่น:
- สูตรน้ำ (Water-based): เหมาะกับการใช้คู่กับถุงยางทุกชนิด
- สูตรซิลิโคน (Silicone-based): หล่อลื่นได้นาน แต่ไม่ควรใช้กับทอยซิลิโคน
- สูตรน้ำมัน (Oil-based): ห้ามใช้กับถุงยาง เพราะทำให้ถุงยางเสื่อมและขาดง่าย
ข้อแนะนำ:
- พกเจลหล่อลื่นติดตัวไว้เสมอ โดยเฉพาะหากมีแผนจะมีเพศสัมพันธ์
- เลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรอง ไม่มีน้ำหอมหรือสารระคายเคือง
กิน PrEP เพื่อป้องกัน HIV อย่างมีประสิทธิภาพ
PrEP หรือ Pre-Exposure Prophylaxis คือยาต้านไวรัสที่ช่วยลดโอกาสติดเชื้อ HIV ได้มากถึง 99% หากทานอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ
เหมาะสำหรับ:
- คนที่มีคู่นอนหลายคน
- คู่ที่มีผลเลือดต่าง หรืออีกฝ่ายเป็นผู้อยู่ร่วมกับเชื้อ HIV
- คนที่ไม่ชอบใช้ถุงยางอนามัย หรือมีโอกาสลืมอยู่บ่อยครั้ง
วิธีใช้งาน:
- แบบรายวัน (Daily): ทานทุกวันอย่างต่อเนื่อง
- แบบตามต้องการ (On-Demand): ทานก่อนมีเซ็กส์ 2 เม็ด และหลังมีเซ็กส์อีก 2 เม็ด (ภายใน 48 ชั่วโมง)
ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจเลือด และตรวจสุขภาพทางเพศทุก 3 เดือน ขณะกิน PrEP
ตรวจสุขภาพทางเพศเป็นประจำ
หลาย ๆ โรค เช่น ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม เริมที่อวัยวะเพศ หรือ HPV อาจไม่มีอาการในช่วงแรก แต่สามารถแพร่เชื้อและทำลายร่างกายได้แบบเงียบ ๆ

หนุ่มเกย์ ควรตรวจอะไรบ้าง?
- HIV ทุก 3 เดือน หากมีพฤติกรรมเสี่ยง
- ซิฟิลิส หนองใน เริม ทุก 3-6 เดือน
- ตรวจทวารหนักและลำคอ (หากมีเซ็กส์ทางปากหรือใช้เซ็กส์ทอย)
- ไวรัสตับอักเสบบี ไวรัสตับอักเสบซี
ที่ไหนตรวจได้บ้าง?
- โรงพยาบาลรัฐและเอกชน
- คลินิกเฉพาะทาง เช่น ฮักษาคลินิก, SWING, RSAT
- เว็บไซต์นัดตรวจออนไลน์ เช่น Love2Test.org
ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสและแบคทีเรียบางชนิด
มีวัคซีนหลายตัวที่ช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เช่น:
- วัคซีน HPV: ป้องกันหูดหงอนไก่ และมะเร็งทวารหนัก
- วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี (HBV): ป้องกันการติดเชื้อจากเลือด น้ำอสุจิ และของเหลวในร่างกาย
- วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ (HAV): ป้องกันการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักหรือการรับประทานอาหารปนเปื้อน
ข้อแนะนำ:
- ควรเริ่มฉีดตั้งแต่วัยรุ่น หรือก่อนมีพฤติกรรมเสี่ยง
- สามารถปรึกษาแพทย์หรือติดต่อคลินิกที่ให้บริการวัคซีนสำหรับ LGBTQ+
หนุ่มเกย์ ใช้เซ็กส์ทอยอย่างปลอดภัย
เซ็กส์ทอยเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มความสุขในกิจกรรมทางเพศ แต่ก็อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ หากไม่ดูแลให้ดี วิธีใช้เซ็กส์ทอยให้ปลอดภัย:
- หลีกเลี่ยงการใช้ทอยร่วมกันโดยไม่ล้าง
- ใช้ถุงยางสวมทอย และเปลี่ยนเมื่อเปลี่ยนคนหรือกิจกรรม
- ล้างทอยด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ หรือผลิตภัณฑ์เฉพาะหลังใช้งานทุกครั้ง
- ห้ามใช้ของมีคม หรือสิ่งที่ไม่ใช่ทอยมาทำหน้าที่เดียวกัน
พูดเรื่อง “เซ็กส์ปลอดภัย” กับคู่ของคุณ
การคุยเรื่องเซ็กส์อย่างตรงไปตรงมาเป็น “หัวใจ” ของการป้องกันโรคทางเพศ
- คุยกันว่าใครเคยตรวจอะไรมาแล้วบ้าง
- ตกลงว่าจะใช้ถุงยางหรือ PrEP ร่วมกัน
- พูดถึงความชอบ ขีดจำกัด และความกังวลอย่างเคารพ
การสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา คือสิ่งที่ทำให้เซ็กส์เป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่ใช่แค่ปลอดโรค แต่ปลอดภัยทางใจด้วย
ลดพฤติกรรมเสี่ยงอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของ หนุ่มเกย์
บางพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับเพศสัมพันธ์สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ เช่น:
- การใช้ยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ขณะมีเซ็กส์: ทำให้ขาดสติ ไม่ใช้ถุงยาง
- การมีคู่นอนจำนวนมากโดยไม่ตรวจสุขภาพ: เพิ่มโอกาสแพร่และรับเชื้อ
- การเข้าร่วม Sex Party หรือ Chemsex โดยไม่เตรียมตัว: ควรพกอุปกรณ์ป้องกันและตรวจสุขภาพก่อน/หลัง
การเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงแม้เพียงเล็กน้อย สามารถลดโอกาสติดโรคได้อย่างมาก

ทำความเข้าใจว่า HIV และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ไม่ใช่ตราบาป
แม้จะพยายามป้องกันแล้ว ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ โดยเฉพาะหากไม่รู้ว่าตัวเองเสี่ยง หากคุณรู้ผลแล้วว่าติดเชื้อ:
- HIV สามารถรักษาได้และมีชีวิตปกติได้ ด้วยยาต้านไวรัส ART
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่สามารถรักษาหายได้ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เริม (แม้บางโรคเป็นซ้ำได้)
- อย่ารู้สึกผิดหรืออาย แต่ควรเข้ารับการรักษาและแจ้งคู่ของคุณอย่างตรงไปตรงมา
สุขภาพทางเพศไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่คือความกล้าหาญและความรับผิดชอบที่น่าชื่นชม
สรุป: หนุ่มเกย์ รักได้ ปลอดภัยได้ ไม่ต้องเสี่ยง เพศสัมพันธ์ที่สนุกและเติมเต็มความรักไม่จำเป็นต้องแลกกับความเสี่ยงด้านสุขภาพ หากคุณมีความรู้ที่ถูกต้อง ใส่ใจในการป้องกัน และดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
“รักใครก็ต้องรักตัวเองก่อน” เพราะคุณมีค่ามากพอ
ที่จะได้รับทั้งความรัก และสุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน
ไม่ว่าคุณจะกำลังมีคนคุย กำลังรักใคร หรือยังโสด การมีเซ็กส์อย่างปลอดภัย คือการแสดงความรักที่ลึกซึ้งที่สุด ทั้งต่อตัวคุณ และคนที่คุณเลือกจะมีสัมพันธ์ด้วย รักได้ เซฟได้ สุขภาพดีได้ ทุกความสัมพันธ์
ขอบคุณข้อมูล: – โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่กลุ่มชายรักชายต้องระวัง (https://hdmall.co.th/blog/hdcare/std-for-male) – เหตุใดผู้ชายเกย์จึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV มากกว่า? (https://www.greaterthan.org/videos/why-gay-men-more-risk-hiv/) – HIV กับเกย์และชายรักร่วมเพศ (https://hivinfo.nih.gov/understanding-hiv/fact-sheets/hiv-and-gay-and-bisexual-men) |